วัดเอ็นโซจิ (Enzoji) วัดชื่อดังประจำย่านไอซุประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี มีชื่อเรียกเต็มๆว่า Fukuman Kokuzo Bosatsu Ensoji ซึ่งเป็นหนึ่งในสาม สถานที่สักการะพระโพธิสัตว์โคคุโซที่สำคัญของญี่ปุ่น (อีก 2 แห่งตั้งอยู่ที่ จังหวัดอิบารากิ และ จังหวัดชิบะ)
วัดเอ็นโซจิ (Enzoji) เป็นวัดเก่าแก่ที่ ถูกก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 807 โดยนักบวชชื่อ Tokuichi Daishi แห่งเมือง Aizu จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือโถงระเบียงของอาคารหลักที่ตั้งอยู่บนหน้าผาขนาดใหญ่เดิมทีระเบียงนี้สร้างมาจากไม้ แต่ช่วงหลังได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนเป็นคอนกรีตเพื่อความแข็งแรง และปลอดภัย

แต่ส่วนอื่น ๆ ในวัดก็ยังคงไว้เป็นไม้เช่นเดิม และเมื่อเทียบขนาดกับวัดอื่นๆแล้ว พื้นที่วัดนี้จัดว่าใหญ่ที่สุดในจังหวัดฟุคุชิมะเลยนะคะ



เข้ามาภายในบริเวณพื้นที่ของวัดแล้วเริ่มแปลกตากับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่รอบๆวัดจะเป็นศาลาไม้เก่าแก่บ้าง แต่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมภายในนะคะ


ตามประวัติศาสตร์ วัดแห่งนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นจากพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ โคโบไดชิ (Kobodaishi) ได้รับไม้ศักดิ์สิทธิ์มาจากพระเกจิสมัยราชวงศ์ถัง เมื่อนำกลับมาญี่ปุ่น ท่านได้แบ่งต้นไม้ออกเป็น 3 ส่วน โยนลงสู่ทะเล และไม้ดังกล่าวได้ลอยไปยังบริเวณจังหวัด อิบารากิ ชิบะ และ ฟุคุชิมะ (ซึ่งก็คือพื้นที่ยานาอิสุในปัจจุบัน) อีกทั้งท่านโคโบไดชิ ยังได้ใช้ไม้ศักดิ์สิทธิ์แกะสลักเป็นพระโพธิสัตว์โคคุโชขึ้นมา ก่อนที่จะมีการสร้างวิหารวัดในปีค.ศ.807


เดินเข้ามาในพื้นที่ของวัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple ใกล้เข้ามากันเรื่อยๆ จะเจอเจดีย์หรือศาลาเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นตั้งเป็นจุดๆ รายรอบทั่วไป


โดยมีศาลาตั้งคร่อมอ่างน้ำดื่มด้วย โดยมีความเชื่อว่า ใครก็ตามมาดื่มน้ำภายใน วัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple นี้จะช่วยบรรเทาและ รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ

และตรงหน้านี่แหละคือวัดไม้โบราณสุดคลาดสิค วัดเอ็นโซจิ Enzoji Temple หลังใหญ่เด่นสง่า ไม้ทั้งหลัง ที่มีอายุมากกว่า 1,300 ปี !!

อุโบสถของวัดนี้มีทั้งความสวยงาม และความขลังอยู่ในตัว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน จากร่องรอยและสีของเนื้อไม้

ตามตำนานที่เล่าขานกันมาว่า ในสมัยแรกเริ่มที่มีการก่อสร้างวัดเอนโซจิขึ้นมา ชาวบ้านยะไนสุได้ใช้วัวแดงจำนวนหนึ่ง เป็นพาหนะเพื่อใช้ในการขนไม้ขึ้นไปบนยอดเขา เรียกว่าเป็นกำลังหลักสำคัญในการสร้างวัดนี้เลยทีเดียว เมื่อวัดได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว วัวเหล่านั้น ก็ไม่ยอมจากวัดไปไหน จนต่อมาวัวเหล่านั้นจึงได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีต่อเทพเจ้า และถูกขนานนามว่า Akabeko (Aka หมายถึงสีแดง, Beko หมายถึงวัว)

นอกจากนี้ ใกล้ๆกัน ยังมีรูปปั้นรูปวัวอีก 2 ตัว ซึ่งตัวแรกผลิตจากหินสลัก ส่วนตัวถัดมานั้นผลิตจากโลหะ โดยผู้ที่มาวัดส่วนใหญ่ มักจะมาลูบที่รูปปั้น และขอพร โดยมีความเชื่อว่า จะสามารถผ่านอุปสรรค์ปัญหารอบตัว และนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าในชีวิต


สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป : วัดเอ็นโซจิ : ไอสึวากามัตสึ ฟุกุชิมะ Fukushima
เปิด-ปิด: 7:00-17:00 น.
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Tadami Line จากสถานี Aizu-Wakamutsu มาลงที่สถานี Aizu-Yanaizu แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที ก็จะถึงวัด
พิกัด : https://bit.ly/3x8VP8Y


